ขุมทรัพย์แห่งความสำเร็จคือการให้
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
มือของผู้ให้ย่อมอยู่เหนือมือของผู้รับ และจะเป็นสุขใจเมื่อเราได้เป็นผู้ให้
การเป็นผู้ให้จะทำให้เราลดความเห็นแก่ตัว การเป็นผู้ให้จะทำให้เราสามารถลดกิเลสในตัวเราลงได้
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า หลักธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจของผู้อื่น ผูกไมตรี คือ สังคหวัตถุ 4 ได้แก่ 1. ทาน คือ การให้ 2. ปิยวาจา คือ การพูดจาด้วยถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวาน 3. อัตถจริยา คือ การประพฤติในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น 4. สมานัตตา คือ การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ เราจะเห็นได้ว่า ทานหรือการให้ เป็นธรรมะข้อแรกสุด บุคคลที่เป็นผู้ให้มักเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมากกว่าบุคคลที่เป็นผู้รับ เช่น
แอนโทนี่ ร็อบบินส์ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจระดับโลก มักบอกเสมอว่า เคล็ดลับของเขา คือ มุ่งความสนใจไปที่ความต้องการของผู้อื่น เขามักถามตัวเองบ่อยๆ ว่า เขาจะเพิ่มคุณค่าให้กับคนอื่นๆ ได้อย่างไร ”
ผู้พันแซนเดอร์แห่ง KFC เขาต้องการให้คนได้กินไก่ที่อร่อยที่สุดในโลก ด้วยการมีความคิดบวกและด้วยหัวใจของการเป็นผู้ให้ เขาจึงได้ออกเร่ขายสูตรไก่ให้กับนักธุรกิจ แต่ก็ถูกปฏิเสธหรือได้ยินคำพูดว่า “ ไม่ ” เป็นจำนวนถึง 1,009 คน ก่อนที่จะได้ยินคำว่า “ ตกลง”
วอลท์ ดิสนีย์ เขาต้องการให้ผู้คนเกิดความสุข โดยเฉพาะเด็กๆ ด้วยหัวใจของการเป็นผู้ให้ เขาจึงสร้างสวนสนุกดิสนีย์ขึ้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากเขาต้องขอกู้หรือขอการสนับสนุนทางด้านการเงิน จากสถาบันต่างๆ ซึ่งเขาก็ถูกปฏิเสธถึง 302 ครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ จนความฝันของเขาเป็นความจริงขึ้นมาได้
ดังนั้น หากท่านสามารถให้คนอื่นได้มากเท่าไร หรือ ช่วยเหลือผู้อื่นได้มากเพียงใด หรือว่าท่านสามารถสร้างคุณค่าให้คนอื่นได้มากเท่าไร ผลตอบแทนก็จะกลับมาหาท่านมากเท่านั้น
ตัวอย่าง คนไม่มีบ้านอยู่ ท่านสร้างบ้านให้เขาอยู่ ท่านก็จะได้รับเงินเป็นค่าแรง ค่าตอบแทนในการสร้างบ้าน,คนไม่มีข้าวกิน ท่านปลูกข้าวให้คนกิน ท่านก็จะได้รับค่าตอบแทน เป็นต้น
กล่าวคือ หากว่าผู้อื่นต้องการอะไร แล้วท่านสามารถตอบสนองหรือให้ในสิ่งที่ผู้อื่นต้องการได้ ท่านก็จะประสบความสำเร็จในที่สุด
การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง