หากไม่รู้อย่าริเป็นนักพูด
ทำไมจึงต้องฝึกการพูด
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
การพูดมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และมีความสำคัญต่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน เราคงไม่ปฏิเสธว่าการพูดเป็นการสื่อสารที่ทำให้คนเราเข้าใจกัน การฝึกการพูดมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อบุคคลที่ต้องการประสบความสำเร็จ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการได้เคยกล่าวไว้ว่า “ หากท่านไม่สามารถลุกขึ้นยืนพูดต่อหน้าที่ชุมชนได้ท่านไม่ควรปรารถนาเป็นผู้นำ” แล้วเคย มีคนตั้งคำถามว่า ถ้าฉันไม่มีความปรารถนาเป็นผู้นำ ฉันมีความจำเป็นอย่างไรจึงต้องฝึกการพูด แท้จริงแล้วการฝึกการพูดมีประโยชน์ต่อตัวเราหลายอย่างดังนี้
1.ฝึกให้เราเป็นคนที่สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานร่วมกันของคนเราต้องอาศัยการพูดเป็นพื้นฐาน การที่คนเราไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกัน เนื่องมาจากสาเหตุหนึ่งก็คือ การพูดนั้นเอง
2.ฝึกให้เราเป็นนักประชาธิปไตย ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ผู้ปกครองต้องรู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้ใต้ปกครอง เสียงส่วนใหญ่ต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของเสียงส่วนน้อย การฝึกการพูดจะทำให้เรากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ หากไม่มีความกล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็น ถึงแม้จะมีความคิดดีๆ ก็ไม่สามารถก่อประโยชน์ให้แก่ส่วนร่วมได้
3.ฝึกให้เราเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ คนเราคบหาสมาคมกันไม่ได้ดูแค่เรื่องของการแต่งตัวเพียงอย่างเดียว แต่การพูดจาสนทนาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการพูดนี้จะทำให้คนชอบก็ได้ จะทำให้คนเกลียดก็ได้ จะทำให้คนฆ่ากันก็ได้ การพูดจึงเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ของมนุษย์
4.ฝึกให้เราเป็นคนที่มีการพัฒนาบุคลิกภาพ การฝึกพูดจะช่วยขัดเกลาบุคลิกภาพของผู้พูด รวมไปถึงการแต่งกาย กริยาท่าทาง ความกระตือรือร้น ความเชื่อมั่นในตนเอง ความหนักแน่น เยือกเย็น
5.ฝึกให้เราเป็นผู้นำ มีคำกล่าวว่า ผู้นำมักทำงานด้วยปาก ผู้ตามมักทำงานด้วยมือ ดังเราจะเห็นได้จากการทำงานในปัจจุบัน ว่าผู้นำองค์กรส่วนใหญ่มักจะมีประชุมมาก บางคนประชุมทั้งสัปดาห์เลยก็มี ซึ่งการประชุมก็ต้องอาศัยการพูดการแสดงความคิดเห็นโดยการพูดทั้งสิ้น
เป้าหมายของการพูดมีกี่แบบ
ในการพูดแต่ละครั้ง ผู้พูดควรทราบว่า การพูดในครั้งนั้นเรามีเป้าหมายใด ซึ่งเป้าหมายในการพูดเราสามารถรวบรวมเป็นกลุ่มจัดรวมเข้าด้วยกัน เป็น 3 แบบ คือ
1. แบบบรรยายหรือแบบบอกเล่า
2. แบบโน้มน้าว จูงใจ ชักชวน
3. แบบบันเทิง
1.แบบบรรยายหรือแบบบอกเล่า เป็นการพูดในลักษณะ สอน บรรยาย ปาฐกถา การอภิปราย
การเล่าข่าว เป็นต้น การพูดในลักษณะนี้มีเป้าหมายคือต้องการให้ผู้ฟัง ทราบข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ เนื้อหา สาระ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องที่พูด
2.แบบโน้มน้าว จูงใจ ชักชวน เป็นการพูดในลักษณะ การหาเสียง การรณรงค์ การชักชวนให้ทำอะไรบ้างอย่าง เช่น การชักชวนให้เลิกบุหรี่ , การชักชวนให้ออกกำลังกาย , การชักชวนให้บริจาคเงินทำการกุศล เป็นต้น การพูดในลักษณะนี้มีเป้าหมายคือต้องการให้ผู้ฟังปฏิบัติตาม หรือให้ความร่วมมือ หรือมีความเห็นด้วยกับผู้พูด
3.แบบบันเทิง เป็นการพูดที่มีความสนุกสนาน เน้นเฮฮา อาจจะมีสาระหรือไม่มีสาระก็ได้ เช่น การพูดทอล์คโชว์ การพูดแซววาที เป็นต้น การพูดในลักษณะนี้มีเป้าหมายคือต้องการให้ผู้ฟังเกิดความสนุกสนาน เฮฮา เพลิดเพลิน เวลาฟัง
ข้อแนะนำ
การพูดที่ดีควรมีทั้ง 3 แบบ ผสมผสานกัน ไม่ควรมีเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะผสมผสานสัดส่วนเท่าใด คงต้องขึ้นอยู่กับผู้พูด โดยต้องคำนึงถึง สถานการณ์ สถานที่ การวิเคราะห์ผู้ฟัง ลักษณะงานที่จัด กาลเทศะ ความเหมาะสมและวัตถุประสงค์ในการจัดงาน