อุปสรรค คือ สีสันของชีวิต
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
ว่าวที่จะขึ้นไปสู่ที่สูงได้ ย่อมมีแรงลมกระแทกเป็นธรรมดา
ทุกอุปสรรคทุกความล้มเหลว ย่อมพาเราไปสู่ความสำเร็จ
เป็นคำพูดที่มีส่วนจริงอยู่ไม่ใช่น้อย โทมัส เอ.เอดิสัน เขาไม่ได้เรียนจบจากสถาบันการศึกษา หลายๆคนบอกว่าเป็นอุปสรรค แต่สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่ เอดิสัน เขาต้องทนทรมานจากการหูหนวกของตัวเขาเอง หลายๆคนคิดว่ามันคืออุปสรรค แต่สำหรับเขาแล้ว มันไม่ใช่ มีอยู่วันหนึ่ง มีนักข่าวคนหนึ่งไปถามเขาว่า การที่เขาหูหนวก มันเป็นอุปสรรคต่อการทำงานไหม
เขากลับตอบกลับ จนนักข่าวต้องตลึงว่า “ การที่เขาหูหนวกเป็นสิ่งที่ดี ต่อการทำงานของเขา เพราะเขาจะได้ไม่ต้องมานั่งฟัง คำพูดที่ไร้สาระของบุคคลต่างๆ ซึ่งบางคนยังไม่รู้เลยว่าตนเองต้องการอะไรในชีวิต แต่การที่เขาหูหนวก ทำให้เขาได้ยินเสียงจากภายในใจของเขาเอง ” และผมเชื่อว่า ถ้าหลายๆคนได้อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว น่าจะคิดแบบเดียวกันกับผมว่า เอดิสัน สุดยอดจริงๆครับ เพราะการที่คนส่วนใหญ่หูหนวก มักคิดว่าเป็นอุปสรรค แต่เขามีมุมมองที่กลับกัน
เอดิสัน จึงเป็นบุคคลหนึ่งที่มีความสำคัญของโลกและเป็นบุคคลที่คนทั่วโลกยกย่อง เขาประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ในเรื่องการเป็นนักประดิษฐ์ และในเรื่องของวิทยาศาสตร์
สำหรับการประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า เขาพบกับความล้มเหลวและอุปสรรค เป็นพันครั้ง มีนักข่าวไปสัมภาษณ์เขาว่า คิดอย่างไรกับความล้มเหลวหรืออุปสรรคที่พบเป็นพันๆครั้ง บ้าง เขากลับตอบนักข่าวว่า ความจริงมันไม่ใช่อุปสรรคหรือความล้มเหลว แต่มันคือวิธีการใหม่ๆที่จะนำไปสู่ความสำเร็จต่างหาก
สุดยอดนะครับ เพราะคนส่วนใหญ่ เมื่อได้พบกับอุปสรรค เจอปัญหา หรือพบกับความพ่ายแพ้ เพียงแค่ครั้งเดียว หลายๆคนถอดใจ หนี นักขายจำนวนมาก เมื่อถูกลูกค้าปฏิเสธ การซื้อ เขาถึงกับถอดใจไม่ทำแล้ว ไม่ขายอีกแล้ว มีน้อยคนนักที่จะพยายามทำต่อไป แต่ เอดิสัน เขาพบกับความล้มเหลว อุปสรรค ถึง พันครั้ง แต่เขาก็สู้ต่อไป จนประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าได้ในที่สุด
ท่านผู้อ่านครับ หากว่าเรานำเรื่องราวของเอดิสัน มาคิด เราจะเห็นว่า หลายๆครั้งที่เรามักจะฟังคนอื่นๆ มากกว่าฟังตนเอง แต่สำหรับเอดิสันแล้ว การที่เขาหูหนวก นั้นเป็นข้อดี เขาจึงสามารถฟังเสียงของตนเองได้ชัดเจนขึ้น กล่าวคือ เขาไม่ต้องมานั่งฟังคนส่วนใหญ่พูดให้เขาเสียกำลังใจ เช่น คุณทำหลอดไฟฟ้าไม่ได้หรอก เพราะยังไม่มีใครเคยทำ , คุณเลิกได้แล้ว ทำมาเป็นพันๆครั้ง ยังทำไม่ได้อีก เป็นต้น
เคยมีนิทานเรื่องหนึ่งเล่าว่า มีการแข่งขันปีนต้นไม้กัน หลายคนกำลังปีนแข่งกัน แต่ต้นไม้สูงมาก ทำให้คนดูเชื่อว่า ไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ คนดูหลายๆคนจึงร้องบอกคนปีนว่า ลงมาเถอะ ไม่ไหวหรอก ด้วยความเป็นห่วยเป็นใยคนปีน จึงทำให้คนที่เข้าแข่งขันหลายๆคน ทยอยปีนลงมาจากต้นไม้สูง แต่มีนักปีนคนหนึ่ง ปีนได้ดีมาก ปีนสูงขึ้น ปีนสูงขึ้น จนสามารถปีนขึ้นไปสู่จุดที่สูงสุดได้ ปรากฏว่าทุกคนต่างก็ชื่นชม นักปีนต้นไม้ ผู้นี้ หลังจากนั้นจึงมีการให้สัมภาษณ์ โดยนักข่าวถามว่า “ ทำไมคุณถึงปีนได้โดยไม่พักเลย” นักปีนที่ได้รับชัยชนะกล่าวตอบว่า “ ก็ผมได้กำลังใจจากผู้ชมที่อยู่ด้านล่างนะซิ ที่ช่วยกันเชียร์” ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะว่าคนที่ได้รับชัยชนะ คนดังกล่าว เขาเป็นคนหูหนวก เลยนึกว่าคนด้านล่างเชียร์ แต่ที่ไหนได้ คนชมด้านล่างกลับร้องตะโกนให้ลงจากต้นไม้
ฉะนั้น มนุษย์เป็นจำนวนมากมักเป็นเช่นนี้ กล่าวคือ มักเอาความคิดเห็นของคนทั่วไปมาสร้างปัญหาให้กับตัวเอง จนทำให้ตนเองแทนที่จะประสบความสำเร็จ กลับกลายเป็นว่าตนเอง พบกับอุปสรรค พบกับปัญหา ฉะนั้น หากว่าท่านต้องการประสบความสำเร็จ ดังเช่น โทมัส เอ.เอดินสัน ท่านจงฟังเสียงของตนเอง มากกว่าฟังเสียงของผู้อื่น เพราะสิ่งนั้นจะเป็นตัวกำหนดโชคชะตาในตัวของท่าน