สาเหตุและเหตุผลในการบริหารเวลาไม่ดี

สาเหตุและเหตุผลในการบริหารเวลาไม่ดี

สาเหตุที่ทำให้เราบริหารเวลาไม่ดี

โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์

www.drsuthichai.com

 

หลายท่านได้เรียนรู้ ได้อ่าน ได้ศึกษา เกี่ยวกับเรื่องการบริหารเวลามามาก แต่ก็ไม่สามารถบริหารเวลาได้ดี ถามว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ซึ่งสาเหตุสำคัญในการทำให้เราบริหารเวลาได้ไม่ดีพอมีอยู่ 3 สาเหตุ คือ

1.ตัวเราเอง ตัวเราเองมีความสำคัญที่สุดในเรื่องของการบริหารเวลา หลายคนบริหารเวลาไม่ดี เนื่องมาจาก

–   การไม่มีเป้าหมาย ไม่มีทิศทางในการดำเนินชีวิต สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก การไม่มีทิศทางเปรียบเสมือนเรือที่ลอยอยู่กลางทะเล แต่หากเรามีเป้าหมาย มีทิศทาง เปรียบเสมือนเรือที่เคลื่อนตัวเข้าไปหาฝั่ง อีกทั้งการมีเป้าหมายยังสามารถทำให้เรากำหนดระยะเวลา กำหนดความเร็วในช่วงเวลาต่างๆได้อีกด้วย

–   การไม่มีแผนการหรือการวางแผน การวางแผนมีความสำคัญมากต่อการบริหารเวลาของคนเรา เพราะหากปราศจากการวางแผนแล้ว เราก็จะไม่รู้ว่า วันพรุ่งนี้เราต้องทำอะไร วันมะรือนี้เราต้องทำอะไร วันมะเรื่องนี้เราต้องทำอะไร อาทิตย์หน้าเราต้องทำอะไร เดือนหน้าเราต้องทำอะไร ปีหน้าเราต้องทำอะไร

–  การไม่มีวินัยในตนเองหรือชอบผัดวันประกันพรุ่ง กล่าวคือมีการวางแผนแล้ว แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เลยทำให้ผลงานออกมาไม่ตรงกับเป้าหมายหรือแผนที่วางไว้ เพราะบางคนทำๆ หยุดๆ ไม่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง และมีหลายๆท่านชอบเก็บงานที่ค้างไว้ทำในวันต่อๆไป ทำให้กลายเป็น “ ดินพอกหางหมู”

–  ไม่ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เทคโนโลยีทำให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน อีกทั้งยังทำให้ประหยัดเวลาได้อีกด้วย เช่น การใช้โทรศัพท์ติดต่อธุรกิจ,การใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน, การใช้อินเตอร์เน็ตติดต่อสื่อสารและค้นหาข้อมูลต่างๆ อีกทั้งการประชุมในยุคปัจจุบันเรายังสามารถประชุมข้ามประเทศ ข้ามจังหวัด ได้ก็ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

–  ไม่รู้จักจัดลำดับความสำคัญ  บุคคลที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาไปกับเรื่องที่สำคัญที่สุดก่อน เพราะไม่มีใครสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉะนั้น งานบางงานที่ไม่มีความสำคัญเราอาจให้คนอื่นทำแทนหรือใช้ผู้อื่นไปทำแทนได้

–    ไม่กล้าปฏิเสธ หลายๆคนไม่กล้าปฏิเสธ แทนที่จะได้ทำงานของตนเองให้เสร็จทันเวลาหรือตามแผนที่วางไว้ กับถูกผู้อื่นขอร้องให้ทำงานของคนอื่น แทนที่จะใจแข็งรู้จักปฏิเสธกับให้การช่วยเหลือ ทำให้งานของตนเองที่จะทำกลับไม่ได้ทำ

–   วางระบบ จัดโต๊ะ ในการทำงาน การวางระบบ การจัดโต๊ะทำงานจะทำให้เราประหยัดเวลาในการค้นหาสิ่งของต่างๆ ยิ่งหากท่านเป็นนักเขียน ท่านควรมีห้องสมุดส่วนตัว อีกทั้งควรจัดหนังสือให้เป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการค้นหา

2.ผู้อื่น เป็นปัจจัยอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราบริหารเวลาได้ไม่ดี เช่น เจ้านายเรียกประชุมแบบกะทันหัน , เพื่อนหรือคนรู้จัก ชวนพูดคุยเป็นเวลานาน , การประชุมนานเกินกว่ากำหนดการที่วางเอาไว้เพราะมีคนเสนอความคิดเห็นมากจนเกินไป ,  การถูกขอร้องจากผู้อื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ  เป็นต้น

3.ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เราบริหารเวลาไม่ได้ดี เช่น การเดินทางไปทำงานแล้ว รถติด รถเกิดเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ , สภาพอากาศหรือสิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลง ฝนตกหนัก น้ำท่วม  ถนนทรุด ฯลฯ

จากข้อความข้างต้น สาเหตุที่ทำให้เราบริหารเวลาไม่ดี ผมให้น้ำหนักไปที่ตัวของเราเองเป็นหลัก เพราะหากเรามีเป้าหมายชีวิต มีการวางแผน มีวินัย มีการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆช่วย  รู้จักลำดับความสำคัญ รู้จักวางระบบการทำงาน และอีกทั้งรู้จักกล้าปฏิเสธในกิจกรรมที่ทำให้เราเสียเวลา เราก็จะสามารถบริหารเวลาได้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้อื่นและปัจจัยอื่นๆ เป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น

#image_title

การใช้เวลา ที่ดีและมีประสิทธิภาพ

การใช้เวลา ที่ดีและมีประสิทธิภาพ

การใช้เวลาเพื่อความสำเร็จ
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com

ใช้เวลาเพื่อการทำงานเถิด….มันคือรางวัลแห่งความสำเร็จ….
ใช้เวลาเพื่อการคิดเถิด….มันคือที่มาของพลังอำนาจ…..
ใช้เวลาเพื่อการผ่อนคลายเถิด…มันคือเคล็ดลับแห่งความมีชีวิตชีวา….
ใช้เวลาเพื่อการอ่านเถิด….มันคือรากฐานแห่งสติปัญญา….
ใช้เวลาเพื่อการฝันเถิด….มันคือพาหนะที่นำไปสู่ดวงดาว
ใช้เวลาเพื่อการสังเกต…เรียนรู้…อย่างกว้างขวางเถิด….
วันเวลาสั้นเกินไปที่จะเห็นแก่ตัว….
ใช้เวลาเพื่อการหัวเราะเถิด….มันคือดนตรีแห่งวิญญาณ…(บทสวดของชาวไอริช…)
การใช้เวลาของผู้ที่ประสบความสำเร็จกับคนธรรมดาโดยทั่วไป มักมีความแตกต่าง ซึ่งการใช้เวลาของผู้ที่ประสบความสำเร็จเขาจะมุ่งเน้นในการทำงานหรือการใช้เวลาไปกับเรื่องที่สำคัญที่สุดก่อน เป็นอันดับแรก เขาจะมีการวางแผนในการใช้เวลา เช่นเดียวกับศัลยแพทย์ชาวอเมริกาที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า “ ถ้าผมจะต้องผ่าตัดผู้ป่วยโดยใช้เวลา 13 นาที ผมจะใช้เวลาวางแผนการผ่าตัด 3 นาที เหลืออีก 10 นาทีผมจะใช้เวลาในการทำการผ่าตัด”
เราจะเห็นได้ว่าการวางแผนในการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อีกทั้งการควบคุมตนเองก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
“เกษตรกรชายคนหนึ่ง ตื่นมาแต่เช้าเพื่อที่จะออกไปขุดดินเพื่อปลูกผัก เขามีความตั้งใจมากว่าจะต้องขุดดิน ขึ้นแปลง เพื่อทำการปลูกผักให้เสร็จภายในวันเดียว สวนผักของเขาอยู่ห่างไกลจากบ้านพักอาศัยที่เขาอาศัยอยู่ เขาจึงขับรถยนต์ ไปเติมน้ำมัน ระหว่างทางเขาขับรถยนต์ผ่านตลาดสด เห็นคนนำลูกไก่มาขาย เขาจึงคิดว่า แวะซื้อลูกไก่สัก 10 ตัว คงไม่ทำให้เสียเวลามาก ดังนั้นเขาก็จอดรถยนต์เพื่อลงไปซื้อลูกไก่ แล้วเขาก็ขับรถต่อไป เห็นร้านขายไม้กวาด เขาคิดว่าจะซื้อไปฝากภรรยา เขาจึงลงไปซื้อไม้กวาดมา 1 อัน แล้วเขาก็ขับรถต่อไป พอถึงปั๊มน้ำมัน เติมน้ำมันเสร็จ เขาเห็นคนนำผักผลไม้มาขาย เขาจึงตัดสินใจซื้อเพื่อนำไปเป็นอาหารมื้อเย็น จนถึงสวนของเขา ภายในสวน เขาเห็นบึงเล็กๆ มีน้ำเหลืออยู่จำนวนไม่มาก แต่ภายในบึงมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เขาคิดว่า เขาจะตักน้ำออกจากบึงแล้วเอาปลาออกจากบึง เพื่อนำไปเป็นอาหารเย็น ”
เราจะเห็นว่าเกษตรกรชายคนนี้ มีเป้าหมายและการวางแผนว่าจะออกไปขุดดิน ขึ้นแปลงเพื่อปลูกผัก แต่เอาเข้าจริงๆ มีกิจกรรมหลายๆอย่างที่ทำให้เขาต้องเสียเวลาไปกับเป้าหมายที่เขาตั้งใจไว้ หลายๆคนอ่านแล้ว คงนึกขำตลกกับเกษตรกรชายคนดังกล่าว แต่หารู้ไม่ พวกเราส่วนใหญ่ก็มีพฤติกรรมไม่ได้แตกต่างไปจากเกษตรกรชายคนนี้มากนัก
หลายๆคนมีเป้าหมายแล้ว มักจะเฉไฉ ไม่พยายามเดินตรงไปสู่เป้าหมายที่วางเอาไว้ หลายๆคนออกนอกเส้นทางไปเลยก็มี เพราะระหว่างทางมักมีสิ่งล่อ สิ่งเร้า เพื่อให้เราเดินออกนอกเส้นทางที่เราวาง การบริหารเวลาที่ดีก็เช่นกัน คนที่จะบริหารเวลาได้ดีจำเป็นอย่างมากจะต้องเป็นคนที่มีวินัย
หลายๆคน มักบ่นว่าทำงานหนัก แต่หากเราลองไปศึกษา วิเคราะห์ การใช้เวลาของเราเอง เราก็จะเห็นว่า เราใช้เวลาไปกับสิ่งที่ไม่มีความสำคัญ มากจนเกินไป จนลืมทำงานที่สำคัญที่สุดของเรา จึงทำให้เกิดผลลัพธ์น้อยมาก การทำงานหนักไม่ได้หมายถึงว่าคนๆนั้นจะประสบความสำเร็จ หากว่าการทำงานหนักและทำงานอย่างชาญฉลาดต่างหากที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้
ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำจะเป็นการดีกว่า (โพธิสัตว์)

#image_title

การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ แนวความคิด

การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ แนวความคิด

แนวความคิดในการบริหารเวลา
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com

ปัญหาของคนส่วนใหญ่ในเรื่องของการบริหารเวลาหรือการใช้เวลาไม่มีประสิทธิภาพก็คือ การไม่รู้จักจัดลำดับความสำคัญของงาน , การเสียเวลากับการรอคอย , การผัดวันประกันพรุ่ง , การไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน , การขาดวินัย , การไม่มีการวางแผนการทำงาน ฯลฯ
ซึ่งเหตุผลต่างๆ ข้างต้นคือ สาเหตุที่ทำให้เราบริหารเวลาได้ไม่ดีพอ แล้วถามว่าเวลาสามารถบริหารได้หรือไม่ ตามความคิดเห็นของกระผม เวลาเป็นทรัพยากรที่สำคัญประเภทหนึ่ง กระผมคิดว่าเวลาก็เหมือนกับทรัพยากรอื่นๆ เช่น ที่ดิน คน เงิน สิ่งของ วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ฯลฯ ถ้าทรัพยากรต่างๆ เราสามารถบริหารได้ ทำไมทรัพยากรเวลา เราจะบริหารไม่ได้
แต่ทรัพยากรด้านเวลามีความแตกต่างจากทรัพยากรโดยทั่วไปกล่าวคือ ทรัพยากรเวลา ไม่สามารถสะสมหรือทดแทนกันได้ เป็นทรัพยากรที่คนเราทุกๆคน มีอย่างเท่าเทียมกัน ไม่สามารถหยิบยืมหรือขอซื้อกัน ดังนั้นเมื่อคนเรามีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมงต่อวัน แต่คนที่ประสบความสำเร็จเขามักใช้เวลาที่มีเท่าเทียมกันได้อย่างคุ้มค่ากว่าคนโดยทั่วไป
หากว่าเรามีทรัพยากรเวลาที่มีจำกัด เราจะทำอย่างไร ถึงจะสามารถใช้ทรัพยากรเวลาให้เกิดความคุ้มค่ากับตัวเราได้ สำหรับคนเราโดยส่วนใหญ่มักจะเสียเวลาหรือใช้เวลาไปกับกิจกรรมโดยแบ่งเป็นช่วงดังนี้ เวลาทำงานประมาณ 8 ชั่วโมง เวลานอนประมาณ 8 ชั่วโมงและเวลาส่วนตัวประมาณ 8 ชั่วโมง นี่คือภาพรวมของการใช้เวลาของคนส่วนใหญ่ในโลกนี้
หากเราต้องการใช้เวลาทำงานมากขึ้น เราก็ควรลดเวลาในช่วงอื่นลง เช่น เราอาจจะต้องลดหรือเพิ่มหรือยืดหยุ่นเวลานอนและเวลาส่วนตัวลง เนื่องจากเวลาหลับโดยเฉลี่ยแล้วคนเรานอนโดยใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง แต่ทางการแพทย์ได้มีการวิจัยมาแล้วว่า คนเราทุกๆคนมีความต้องการหลับมากน้อยไม่เท่ากัน เพราะบางคนอาจต้องการนอนหลับมากกว่าหรือน้อยกว่า 8 ชั่วโมงก็ได้ เช่น
โทมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์เอกของโลกตามประวัติใช้เวลานอนเพียงคืนละ 4 ชั่วโมง แต่จะหาโอกาสงีบหลับครั้งละ 5 -10 นาทีในระหว่างทำงาน บางคนก็อาจจะนอนหลับวันละ 9-10 ชั่วโมง หากว่านอน 8 ชั่วโมงแล้วยังรู้สึกง่วงซึมหรือบางคนสุขภาพแย่ร่างกายก็ต้องการนอนพักผ่อนมากกว่า 8 ชั่วโมงเป็นต้น
ฉะนั้น หากท่านต้องการทราบว่าท่าน มีความต้องการเวลาในการหลับนอนวันละกี่โมง ท่านคงจะต้องใช้วิธีการทดลอง ด้วยการกำหนดระยะเวลาของการนอนที่แตกต่างกันออกไปแต่ละช่วง เช่นกำหนด 5 ชั่วโมง 6 ชั่วโมง 7 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง 9 ชั่วโมง 10 ชั่วโมง หากว่าท่านนอนเพียงแค่ 5 ชั่วโมงแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่า นั้นแสดงว่าช่วงเวลานอนของท่านนอนแค่ 5 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว
ดังนั้น ขอให้พวกเรา จงบริหารเวลา ก่อนที่เวลาจะมากำหนดชีวิตหรือบริหารตัวเรา

“Lost time is never found again.”

#image_title

อย่ากลัวความล้มเหลว

อย่ากลัวความล้มเหลว

จงกล้าที่จะล้มเหลว เพราะความล้มเหลว คือโอกาสในการเริ่มต้นใหม่ มันเป็นบททดสอบ ความมุ่งมั่น ความอดทน การไม่ยอมแพ้และจะนำพาชีวิตของเราไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต อย่าได้กลัวความล้มเหลว คนบางคนกลัวและเข็ดหลาบจนไม่กล้าที่จะทำอะไร จงลุกขึ้นสู้กับมันอีกครั้งดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์#วิทยากรสอนสนุก #คำคม #คำคมสร้างแรงบันดาลใจ #นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ #คำคมสร้างกำลังใจ #คำคมสอนใจwww.drsuthichai.com

#image_title

ทำไมต้องฝึกพูด

ทำไมต้องฝึกพูด

หากไม่รู้อย่าริเป็นนักพูด
ทำไมจึงต้องฝึกการพูด
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com

การพูดมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และมีความสำคัญต่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน เราคงไม่ปฏิเสธว่าการพูดเป็นการสื่อสารที่ทำให้คนเราเข้าใจกัน การฝึกการพูดมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อบุคคลที่ต้องการประสบความสำเร็จ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการได้เคยกล่าวไว้ว่า “ หากท่านไม่สามารถลุกขึ้นยืนพูดต่อหน้าที่ชุมชนได้ท่านไม่ควรปรารถนาเป็นผู้นำ” แล้วเคย มีคนตั้งคำถามว่า ถ้าฉันไม่มีความปรารถนาเป็นผู้นำ ฉันมีความจำเป็นอย่างไรจึงต้องฝึกการพูด แท้จริงแล้วการฝึกการพูดมีประโยชน์ต่อตัวเราหลายอย่างดังนี้
1.ฝึกให้เราเป็นคนที่สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานร่วมกันของคนเราต้องอาศัยการพูดเป็นพื้นฐาน การที่คนเราไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกัน เนื่องมาจากสาเหตุหนึ่งก็คือ การพูดนั้นเอง
2.ฝึกให้เราเป็นนักประชาธิปไตย ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ผู้ปกครองต้องรู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้ใต้ปกครอง เสียงส่วนใหญ่ต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของเสียงส่วนน้อย การฝึกการพูดจะทำให้เรากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ หากไม่มีความกล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็น ถึงแม้จะมีความคิดดีๆ ก็ไม่สามารถก่อประโยชน์ให้แก่ส่วนร่วมได้
3.ฝึกให้เราเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ คนเราคบหาสมาคมกันไม่ได้ดูแค่เรื่องของการแต่งตัวเพียงอย่างเดียว แต่การพูดจาสนทนาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการพูดนี้จะทำให้คนชอบก็ได้ จะทำให้คนเกลียดก็ได้ จะทำให้คนฆ่ากันก็ได้ การพูดจึงเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ของมนุษย์
4.ฝึกให้เราเป็นคนที่มีการพัฒนาบุคลิกภาพ การฝึกพูดจะช่วยขัดเกลาบุคลิกภาพของผู้พูด รวมไปถึงการแต่งกาย กริยาท่าทาง ความกระตือรือร้น ความเชื่อมั่นในตนเอง ความหนักแน่น เยือกเย็น
5.ฝึกให้เราเป็นผู้นำ มีคำกล่าวว่า ผู้นำมักทำงานด้วยปาก ผู้ตามมักทำงานด้วยมือ ดังเราจะเห็นได้จากการทำงานในปัจจุบัน ว่าผู้นำองค์กรส่วนใหญ่มักจะมีประชุมมาก บางคนประชุมทั้งสัปดาห์เลยก็มี ซึ่งการประชุมก็ต้องอาศัยการพูดการแสดงความคิดเห็นโดยการพูดทั้งสิ้น

เป้าหมายของการพูดมีกี่แบบ
ในการพูดแต่ละครั้ง ผู้พูดควรทราบว่า การพูดในครั้งนั้นเรามีเป้าหมายใด ซึ่งเป้าหมายในการพูดเราสามารถรวบรวมเป็นกลุ่มจัดรวมเข้าด้วยกัน เป็น 3 แบบ คือ
1. แบบบรรยายหรือแบบบอกเล่า
2. แบบโน้มน้าว จูงใจ ชักชวน
3. แบบบันเทิง

1.แบบบรรยายหรือแบบบอกเล่า เป็นการพูดในลักษณะ สอน บรรยาย ปาฐกถา การอภิปราย
การเล่าข่าว เป็นต้น การพูดในลักษณะนี้มีเป้าหมายคือต้องการให้ผู้ฟัง ทราบข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ เนื้อหา สาระ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องที่พูด
2.แบบโน้มน้าว จูงใจ ชักชวน เป็นการพูดในลักษณะ การหาเสียง การรณรงค์ การชักชวนให้ทำอะไรบ้างอย่าง เช่น การชักชวนให้เลิกบุหรี่ , การชักชวนให้ออกกำลังกาย , การชักชวนให้บริจาคเงินทำการกุศล เป็นต้น การพูดในลักษณะนี้มีเป้าหมายคือต้องการให้ผู้ฟังปฏิบัติตาม หรือให้ความร่วมมือ หรือมีความเห็นด้วยกับผู้พูด
3.แบบบันเทิง เป็นการพูดที่มีความสนุกสนาน เน้นเฮฮา อาจจะมีสาระหรือไม่มีสาระก็ได้ เช่น การพูดทอล์คโชว์ การพูดแซววาที เป็นต้น การพูดในลักษณะนี้มีเป้าหมายคือต้องการให้ผู้ฟังเกิดความสนุกสนาน เฮฮา เพลิดเพลิน เวลาฟัง
ข้อแนะนำ
การพูดที่ดีควรมีทั้ง 3 แบบ ผสมผสานกัน ไม่ควรมีเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะผสมผสานสัดส่วนเท่าใด คงต้องขึ้นอยู่กับผู้พูด โดยต้องคำนึงถึง สถานการณ์ สถานที่ การวิเคราะห์ผู้ฟัง ลักษณะงานที่จัด กาลเทศะ ความเหมาะสมและวัตถุประสงค์ในการจัดงาน

#image_title