by drsuthichai | Nov 21, 2024 | การศึกษา, ทั่วไป อื่นๆ
การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
การทำงานในหน่วยงานหรือองค์กร มักจะเกิดปัญหาในการทำงานขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคน เรื่องของระบบการบริหาร เรื่องของงบประมาณหรือเรื่องของการจัดสรรทรัพยากรที่มีจำกัด ฯลฯ การแก้ไขปัญหาจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการทำงาน หากว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาในการทำงาน ท่านลองทำตามคำแนะนำเบื้องต้นนี้ สำหรับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ มีดังนี้
1.วิเคราะห์ปัญหา แยกแยะและทำความเข้าใจปัญหา หากว่าท่านมีปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับการทำงาน ท่านลองวิเคราะห์ปัญหาว่าปัญหาที่ท่านเจอมีทางออกอย่างไร ท่านมีวิธีใดในการแก้ไขปัญหา ปัญหานั้นใหญ่แค่ไหน ปัญหาที่เจอมันจะส่งผลกระทบต่อหน่วยงานหรือตัวท่านเองมากน้อยแค่ไหน ขอให้ท่านลองคิดไตร่ตรองพิจารณา แล้วควรเขียนใส่ในกระดาษหรืออาจจะวิเคราะห์โดยใช้แผนที่ความคิด(Mind Map) เป็นต้น
2.รวบรวมข้อมูลมาให้มากที่สุด ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจแก้ปัญหาหรือตัดสินใจใดๆ ลงไป ท่านควรแสวงหาข้อมูลมาให้มากที่สุด เพราะการมีข้อมูลจะทำให้เราเกิดการตัดสินใจได้อย่างรอบด้านและตัดสินใจได้ดี ยิ่งขึ้น
3.การหาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาไว้หลายๆทาง จะทำให้ท่านตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่านอาจจะขอคำแนะนำ ขอคำปรึกษา จากผู้มีประสบการณ์หรือผู้เชี่ยวชาญ แล้วจงวิเคราะห์ว่าทางเลือกใดเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหรือตรงกับความต้องการ มากที่สุด ด้วยตนเองโดยเรียงลำดับจากวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดไปจนถึงน้อยที่สุด
4.ตัดสินใจเลือกวิธีที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์นั้นๆ เพราะวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ไขปัญหาหนึ่งอาจไม่ดีสำหรับการแก้ไข ปัญหาอีกปัญหาหนึ่ง ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก สภาพของปัญหาที่ต่างแตกกัน เช่น เรื่องของพื้นที่ , เรื่องของงบประมาณ , เรื่องของเงื่อนไขบางอย่าง ฯลฯ ดังนั้นคุณอาจจะตัดสินใจเลือกวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดลำดับที่ หนึ่ง ตามรายละเอียดในข้อที่ 3 แต่ถ้าวิธีการที่หนึ่งมีปัญหาไม่สามารถนำไปใช้ได้หรือใช้แก้ไขปัญหาไม่ได้ คุณอาจมีวิธีที่สองสำรองไว้ใช้
5.นำวิธีการที่เลือกไปใช้โดยมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน มีการกำหนดรายละเอียด ออกแบบเครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน แล้วจึงลงมือทำทันที
6.มีการประเมินผล ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด มีการปรับปรุงแผนที่วางไว้ให้เข้ากับเหตุการณ์ หากเกิดความขัดข้อง กล่าวคือ วิธีการที่หนึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้นำเอาแผนสำรองคือวิธีการที่สองมาประยุกต์ใช้ต่อไป แต่หากวิธีการที่หนึ่งแก้ไขปัญหาได้ประสบความสำเร็จ ก็ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย
จากข้อความข้างต้น ท่านจะเห็นได้ว่าหลักการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ จะทำให้ท่านมีการตัดสินใจได้อย่างดีขึ้น มีการมองปัญหาอย่างเป็นระบบขึ้น และมีหลักการในการแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าเดิม ซึ่งแต่เดิมบางท่านอาจจะแก้ไขปัญหาแบบไม่มีหลักการ ไม่มีการวิเคราะห์ปัญหา แยกแยะและทำความเข้าใจปัญหา ไม่มีการรวบรวมข้อมูลมาให้มากที่สุด ไม่มีการหาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาไว้หลายๆทาง ไม่มีการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่มีวิธีการที่ดีที่สุด ไม่มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนในการนำวิธีการไปใช้ และไม่มีการประเมินผล ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด
#image_title
by drsuthichai | Nov 18, 2024 | การศึกษา, ทั่วไป อื่นๆ
เข็มทิศการทำงาน
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
เคยมีคนตั้งคำถามว่า ทำไมคนบางคนถึงทำงานได้มากมาย แต่ทำไมคนส่วนใหญ่จึงทำงานได้น้อย อีกทั้งมักไม่ค่อยมีคุณภาพอีกต่างหาก ยกตัวอย่างเช่น พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ ท่านสร้างผลงานต่างๆได้อย่างมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นงานประพันธ์หนังสือเป็นจำนวนมาก เช่น หนังสือเรื่องกุศโลบาย , วิธีทำงานและสร้างอนาคต ,มหาบุรุษ,มันสมอง เป็นต้น
สำหรับงานในชีวิตราชการท่านได้รับตำแหน่งต่างๆ มากมาย เช่น ตำแหน่งข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ ,รัฐมนตรีและอธิบดีกรมศิลปากร,รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง เป็นต้น ซึ่งบุคคลที่ทำงานได้ดีและมีผลงานเป็นจำนวนมากนั้น จะต้องเป็นคนที่ทำงานหนัก ทำงานเก่ง ทำงานรวดเร็ว สำหรับพลตรี หลวงวิจิตรวาทการ เป็นตัวอย่างในเรื่องของการทำงานได้เป็นอย่างดี โดยท่านสามารถทำงานหนักได้นานถึงวันละ 16 ชั่วโมง เลยทีเดียว
สำหรับหลักการทำงานให้ได้ผลงานทั้งคุณภาพและปริมาณนั้น มีดังนี้
1.รู้จักลำดับงาน การรู้จักลำดับงานก็คือการวางแผนนั้นเอง คนที่ทำงานได้ดีนั้นจะต้องเป็นคนที่มีแผนงาน ว่าตนจะทำอะไร เมื่อไร อีกทั้งต้องรู้จักลำดับงานออกเป็นประเภทต่างๆ เช่น งานสำคัญ , งานไม่สำคัญ , งานเร่งด่วน , งานไม่เร่งด่วน แล้วจึงพิจารณาเลือกทำงานให้มีความเหมาะสมกับเงื่อนของเวลา
2.มีวินัยในการทำงาน คนที่ทำงานได้ดีนั้นจะต้องเป็นคนที่มีวินัยในการทำงาน เช่น นักเขียนดังๆ จะต้องมีวินัยในการทำงานเขียน เนื่องจากอาชีพนักเขียนไม่มีเวลาทำงานแน่นอนตายตัว ไม่มีหัวหน้างานคอยมาบังคับ อาชีพนักเขียนจึงเป็นอาชีพอิสระ ดังนั้นจะต้องมีวินัยในการบังคับตัวเองให้เขียน นักเขียนบางคนตั้งกฎกับตัวเองว่าจะต้องเขียนให้ได้วันละ 3 หน้ากระดาษ ทุกวัน ดังนั้น ผลงานของเขาจึงออกมามากมายมหาศาล ถ้าหากว่าเราคิดอย่างง่ายๆ วันละ 3 หน้ากระดาษ 1 เดือนมี 30 วัน เขาจะได้หนังสือ 1 เล่ม ที่มีจำนวนหน้า 90 หน้า และ 1 ปี เขาจะมีงานเขียนถึงจำนวน 12 เล่ม เลยทีเดียว
งานอาชีพอื่นๆก็เช่นกัน บุคคลที่ทำงานดีและเก่งนั้น จะต้องมีวินัยในการทำงาน ทำงานส่งตรงวันเวลาที่เจ้านายหรือลูกค้านัดหมาย
3. มีสมาธิในการทำงาน บุคคลที่ทำงานดี ทำงานเก่ง นั้นจะต้องมีสมาธิในการทำงาน
คำ ว่า “สมาธิ” จากพจนานุกรมไทย ราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง ความตั้งมั่นแห่งจิต , ความแน่วแน่ในการสำรวมใจ , การมีจิตเพ่งเล็งแน่วแน่อยู่ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ,ความตรึกตรองอย่าง เคร่งเครียดในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
สมาธิจึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานทุก ประเภท เช่น หากใครมีสมาธิในการอ่านหนังสือก็จะสามารถอ่านหนังสือได้ดีและเร็วกว่าคนไม่ มีสมาธิ , ใครมีสมาธิในการประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ก็จะสามารถประดิษฐ์ของได้เป็นจำนวนมาก และมีประสิทธิภาพกว่าคนไม่มีสมาธิ ดังเช่น โทมัส อัลวา เอดิสัน สามารถประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ได้มากมาย ก็เพราะด้วยความที่โทมัส อัลวา เอดิสัน เป็นคนที่มีสมาธินั้นเอง เป็นต้น
4.มีการพักสมองบ้าง การหยุดพักมีความสำคัญไม่ใช่น้อย ร่างกายของคนเราไม่ใช่เครื่องจักรถึงแม้จะเป็นเครื่องจักรก็ตามก็ต้องมีการ หยุดพักเช่นกัน การพักสมอง อาจทำได้โดย
– การเปลี่ยนงานที่ทำ เช่น หากเรามีอาชีพนักเขียน เมื่อทำงานเขียนเป็นเวลานานๆ สมองอาจไม่สดชื่นแจ่มใส ควรเปลี่ยนงานที่ทำโดยการออกไปปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ ไปล้างรถ ทำความสะอาดบ้าน ฯลฯ
– การเปลี่ยนที่ทำงาน เช่น ปกติห้องทำงานเขียนมักอยู่ภายในบ้าน ท่านสามารถนำงานเขียนไปเขียนนอกบ้านบ้าง โดยการออกไปเขียนตามห้องสมุด สวนสาธารณะ ฯลฯ
5.จงสนุกกับการทำงาน จงรักในงานที่ท่านทำ หากว่าเราทำงานด้วยความไม่สนุก หากว่าเราไม่รักในงานที่ทำ งานที่ทำมักทำให้เราเกิดความทุกข์ ในทางตรงกันข้ามถ้าหากเราทำงานด้วยความสนุกงานที่ทำก็จะช่วยให้เราเกิดความ สุขขึ้น จงสนุกกับการทำงานแล้ว ผลงานของท่านจะมีปริมาณมากและคุณภาพของผลก็จะออกมาดีเยี่ยม
ปัจจัยข้าง ต้นนี้ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างผู้ที่ทำงานได้เก่ง ทำงานได้ดี กับ คนที่ทำงานออกมาแล้วไม่มีประสิทธิภาพ หากว่าท่านต้องการทำงานเก่ง ทำงานได้ปริมาณที่มากทั้งคุณภาพและจำนวน ท่านควรปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงตนเอง
#image_title
by drsuthichai | Nov 14, 2024 | การศึกษา, ทั่วไป อื่นๆ
เครื่องมือนำทางในการบริหารเวลา คือ เป้าหมาย
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
“ ความพยายาม ความขยัน ความอดทนในการทำงานยังไม่เพียงพอหากปราศจากซึ่งเป้าหมายและการวางแผนเพราะเป้าหมายและการวางแผนเปรียบดังดวงประทีปส่องนำทางในช่วงเวลาค่ำคืน ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จ”
การตั้งเป้าหมายมีความสำคัญต่อการบริหารเวลาเป็นอย่างยิ่ง เพราะการตั้งเป้าหมายทำให้เรามีทิศทางในการทำงาน ทำให้เรามีความตั้งใจทุ่มเทให้กับสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดและลดการใช้เวลากับสิ่งที่มีความสำคัญน้อยที่สุด อีกทั้งลดการใช้พลังงานทั้งทางร่างกาย ทางสมอง ทางจิตใจ ของเราลงไปกับสิ่งที่ไม่มีความสำคัญ
เมื่อเรามีเป้าหมายแล้ว เราก็ควรที่จะจัดทำการวางแผนขึ้น เพราะการวางแผนเพียง 8 นาที จะช่วยให้เราประหยัดเวลาได้ถึง 1 ชั่วโมง เลยทีเดียว ฉะนั้น หากใครวางแผนมาก เขาก็จะมีเวลาเหลือในการทำสิ่งที่สำคัญๆสำหรับชีวิตมากขึ้น
สำหรับการตั้งเป้าหมายที่ดี เราควรมีการร่างเป้าหมาย ร่างแผนการต่างๆลงในกระดาษ เพราะการร่าง เป้าหมายและแผนการ ลงในกระดาษมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ทำให้เราสามารถตรวจสอบเป้าหมายและแผนของเราได้ตลอดเวลา ทำให้เห็นภาพหรือทิศทางที่จะเดินไปข้างหน้า ทำให้เราเกิดสมาธิในการทำงานมากกว่าการนั่งคิดไปเรื่อยๆ ทำให้เราลดภาระการจดจำของเรา การเขียนร่างนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นการทำงานและเตือนใจอีกด้วย ถ้าจะให้ดี เราควรมีแฟ้มใส่เป็นสัดส่วนเพื่อจะนำไปใช้เป็นหลักฐานในการทำงานครั้งต่อไปได้
หลายคนมักถามผมว่า “ แล้วถ้าผมมีเป้าหมายหลายอย่างละครับ ผมควรที่จะทำอย่างไร” หากว่าคุณมีเป้าหมายหลายอย่าง คุณควรเขียนเป้าหมายทุกอย่างลงในกระดาษ แล้วลองเรียงลำดับเป้าหมายที่มีความสำคัญที่สุดก่อนโดยให้คะแนนจากมากไปน้อย (เป้าหมายไหนมีความสำคัญมากให้คะแนนมาก เป้าหมายไหนมีความสำคัญน้อยให้คะแนนน้อยหรือเรียงจาก ABC ) แล้ววางแผนและให้ความสำคัญกับเป้าหมายที่มีความสำคัญมากที่สุดก่อนตามลำดับ
เป้าหมายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นเครื่องมือนำทางในการบริหารเวลา ไม่ว่าคุณจะบริหารประเทศ บริหารทีมงาน บริหารองค์กร รวมถึงการบริหารตนเอง หากว่าไม่มีเป้าหมายเสียแล้ว การบริหารก็จะขาดทิศทาง ต่างคนต่างทำงาน จึงทำให้ประสิทธิภาพของตนเอง ขององค์กร ของหน่วยงาน ลดลง
ดังนั้น หากว่าคุณเป็นผู้บริหาร คุณควรตั้งเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน ขึ้นภายในองค์กร ภายในหน่วยงาน ภายในทีมงาน และควรตั้งเป้าหมายสำหรับตัวของคุณเองด้วย แล้วคุณจะพบว่าคุณเป็นบุคคลหนึ่งที่บริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าในอดีต
#image_title
by drsuthichai | Nov 14, 2024 | การศึกษา, ทั่วไป อื่นๆ
สาเหตุที่ทำให้เราบริหารเวลาไม่ดี
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
หลายท่านได้เรียนรู้ ได้อ่าน ได้ศึกษา เกี่ยวกับเรื่องการบริหารเวลามามาก แต่ก็ไม่สามารถบริหารเวลาได้ดี ถามว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ซึ่งสาเหตุสำคัญในการทำให้เราบริหารเวลาได้ไม่ดีพอมีอยู่ 3 สาเหตุ คือ
1.ตัวเราเอง ตัวเราเองมีความสำคัญที่สุดในเรื่องของการบริหารเวลา หลายคนบริหารเวลาไม่ดี เนื่องมาจาก
– การไม่มีเป้าหมาย ไม่มีทิศทางในการดำเนินชีวิต สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก การไม่มีทิศทางเปรียบเสมือนเรือที่ลอยอยู่กลางทะเล แต่หากเรามีเป้าหมาย มีทิศทาง เปรียบเสมือนเรือที่เคลื่อนตัวเข้าไปหาฝั่ง อีกทั้งการมีเป้าหมายยังสามารถทำให้เรากำหนดระยะเวลา กำหนดความเร็วในช่วงเวลาต่างๆได้อีกด้วย
– การไม่มีแผนการหรือการวางแผน การวางแผนมีความสำคัญมากต่อการบริหารเวลาของคนเรา เพราะหากปราศจากการวางแผนแล้ว เราก็จะไม่รู้ว่า วันพรุ่งนี้เราต้องทำอะไร วันมะรือนี้เราต้องทำอะไร วันมะเรื่องนี้เราต้องทำอะไร อาทิตย์หน้าเราต้องทำอะไร เดือนหน้าเราต้องทำอะไร ปีหน้าเราต้องทำอะไร
– การไม่มีวินัยในตนเองหรือชอบผัดวันประกันพรุ่ง กล่าวคือมีการวางแผนแล้ว แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เลยทำให้ผลงานออกมาไม่ตรงกับเป้าหมายหรือแผนที่วางไว้ เพราะบางคนทำๆ หยุดๆ ไม่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง และมีหลายๆท่านชอบเก็บงานที่ค้างไว้ทำในวันต่อๆไป ทำให้กลายเป็น “ ดินพอกหางหมู”
– ไม่ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เทคโนโลยีทำให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน อีกทั้งยังทำให้ประหยัดเวลาได้อีกด้วย เช่น การใช้โทรศัพท์ติดต่อธุรกิจ,การใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน, การใช้อินเตอร์เน็ตติดต่อสื่อสารและค้นหาข้อมูลต่างๆ อีกทั้งการประชุมในยุคปัจจุบันเรายังสามารถประชุมข้ามประเทศ ข้ามจังหวัด ได้ก็ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่
– ไม่รู้จักจัดลำดับความสำคัญ บุคคลที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาไปกับเรื่องที่สำคัญที่สุดก่อน เพราะไม่มีใครสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉะนั้น งานบางงานที่ไม่มีความสำคัญเราอาจให้คนอื่นทำแทนหรือใช้ผู้อื่นไปทำแทนได้
– ไม่กล้าปฏิเสธ หลายๆคนไม่กล้าปฏิเสธ แทนที่จะได้ทำงานของตนเองให้เสร็จทันเวลาหรือตามแผนที่วางไว้ กับถูกผู้อื่นขอร้องให้ทำงานของคนอื่น แทนที่จะใจแข็งรู้จักปฏิเสธกับให้การช่วยเหลือ ทำให้งานของตนเองที่จะทำกลับไม่ได้ทำ
– วางระบบ จัดโต๊ะ ในการทำงาน การวางระบบ การจัดโต๊ะทำงานจะทำให้เราประหยัดเวลาในการค้นหาสิ่งของต่างๆ ยิ่งหากท่านเป็นนักเขียน ท่านควรมีห้องสมุดส่วนตัว อีกทั้งควรจัดหนังสือให้เป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการค้นหา
2.ผู้อื่น เป็นปัจจัยอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราบริหารเวลาได้ไม่ดี เช่น เจ้านายเรียกประชุมแบบกะทันหัน , เพื่อนหรือคนรู้จัก ชวนพูดคุยเป็นเวลานาน , การประชุมนานเกินกว่ากำหนดการที่วางเอาไว้เพราะมีคนเสนอความคิดเห็นมากจนเกินไป , การถูกขอร้องจากผู้อื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ เป็นต้น
3.ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เราบริหารเวลาไม่ได้ดี เช่น การเดินทางไปทำงานแล้ว รถติด รถเกิดเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ , สภาพอากาศหรือสิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลง ฝนตกหนัก น้ำท่วม ถนนทรุด ฯลฯ
จากข้อความข้างต้น สาเหตุที่ทำให้เราบริหารเวลาไม่ดี ผมให้น้ำหนักไปที่ตัวของเราเองเป็นหลัก เพราะหากเรามีเป้าหมายชีวิต มีการวางแผน มีวินัย มีการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆช่วย รู้จักลำดับความสำคัญ รู้จักวางระบบการทำงาน และอีกทั้งรู้จักกล้าปฏิเสธในกิจกรรมที่ทำให้เราเสียเวลา เราก็จะสามารถบริหารเวลาได้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้อื่นและปัจจัยอื่นๆ เป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น
#image_title
by drsuthichai | Nov 14, 2024 | การศึกษา, ทั่วไป อื่นๆ
การใช้เวลาเพื่อความสำเร็จ
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
ใช้เวลาเพื่อการทำงานเถิด….มันคือรางวัลแห่งความสำเร็จ….
ใช้เวลาเพื่อการคิดเถิด….มันคือที่มาของพลังอำนาจ…..
ใช้เวลาเพื่อการผ่อนคลายเถิด…มันคือเคล็ดลับแห่งความมีชีวิตชีวา….
ใช้เวลาเพื่อการอ่านเถิด….มันคือรากฐานแห่งสติปัญญา….
ใช้เวลาเพื่อการฝันเถิด….มันคือพาหนะที่นำไปสู่ดวงดาว
ใช้เวลาเพื่อการสังเกต…เรียนรู้…อย่างกว้างขวางเถิด….
วันเวลาสั้นเกินไปที่จะเห็นแก่ตัว….
ใช้เวลาเพื่อการหัวเราะเถิด….มันคือดนตรีแห่งวิญญาณ…(บทสวดของชาวไอริช…)
การใช้เวลาของผู้ที่ประสบความสำเร็จกับคนธรรมดาโดยทั่วไป มักมีความแตกต่าง ซึ่งการใช้เวลาของผู้ที่ประสบความสำเร็จเขาจะมุ่งเน้นในการทำงานหรือการใช้เวลาไปกับเรื่องที่สำคัญที่สุดก่อน เป็นอันดับแรก เขาจะมีการวางแผนในการใช้เวลา เช่นเดียวกับศัลยแพทย์ชาวอเมริกาที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า “ ถ้าผมจะต้องผ่าตัดผู้ป่วยโดยใช้เวลา 13 นาที ผมจะใช้เวลาวางแผนการผ่าตัด 3 นาที เหลืออีก 10 นาทีผมจะใช้เวลาในการทำการผ่าตัด”
เราจะเห็นได้ว่าการวางแผนในการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อีกทั้งการควบคุมตนเองก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
“เกษตรกรชายคนหนึ่ง ตื่นมาแต่เช้าเพื่อที่จะออกไปขุดดินเพื่อปลูกผัก เขามีความตั้งใจมากว่าจะต้องขุดดิน ขึ้นแปลง เพื่อทำการปลูกผักให้เสร็จภายในวันเดียว สวนผักของเขาอยู่ห่างไกลจากบ้านพักอาศัยที่เขาอาศัยอยู่ เขาจึงขับรถยนต์ ไปเติมน้ำมัน ระหว่างทางเขาขับรถยนต์ผ่านตลาดสด เห็นคนนำลูกไก่มาขาย เขาจึงคิดว่า แวะซื้อลูกไก่สัก 10 ตัว คงไม่ทำให้เสียเวลามาก ดังนั้นเขาก็จอดรถยนต์เพื่อลงไปซื้อลูกไก่ แล้วเขาก็ขับรถต่อไป เห็นร้านขายไม้กวาด เขาคิดว่าจะซื้อไปฝากภรรยา เขาจึงลงไปซื้อไม้กวาดมา 1 อัน แล้วเขาก็ขับรถต่อไป พอถึงปั๊มน้ำมัน เติมน้ำมันเสร็จ เขาเห็นคนนำผักผลไม้มาขาย เขาจึงตัดสินใจซื้อเพื่อนำไปเป็นอาหารมื้อเย็น จนถึงสวนของเขา ภายในสวน เขาเห็นบึงเล็กๆ มีน้ำเหลืออยู่จำนวนไม่มาก แต่ภายในบึงมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เขาคิดว่า เขาจะตักน้ำออกจากบึงแล้วเอาปลาออกจากบึง เพื่อนำไปเป็นอาหารเย็น ”
เราจะเห็นว่าเกษตรกรชายคนนี้ มีเป้าหมายและการวางแผนว่าจะออกไปขุดดิน ขึ้นแปลงเพื่อปลูกผัก แต่เอาเข้าจริงๆ มีกิจกรรมหลายๆอย่างที่ทำให้เขาต้องเสียเวลาไปกับเป้าหมายที่เขาตั้งใจไว้ หลายๆคนอ่านแล้ว คงนึกขำตลกกับเกษตรกรชายคนดังกล่าว แต่หารู้ไม่ พวกเราส่วนใหญ่ก็มีพฤติกรรมไม่ได้แตกต่างไปจากเกษตรกรชายคนนี้มากนัก
หลายๆคนมีเป้าหมายแล้ว มักจะเฉไฉ ไม่พยายามเดินตรงไปสู่เป้าหมายที่วางเอาไว้ หลายๆคนออกนอกเส้นทางไปเลยก็มี เพราะระหว่างทางมักมีสิ่งล่อ สิ่งเร้า เพื่อให้เราเดินออกนอกเส้นทางที่เราวาง การบริหารเวลาที่ดีก็เช่นกัน คนที่จะบริหารเวลาได้ดีจำเป็นอย่างมากจะต้องเป็นคนที่มีวินัย
หลายๆคน มักบ่นว่าทำงานหนัก แต่หากเราลองไปศึกษา วิเคราะห์ การใช้เวลาของเราเอง เราก็จะเห็นว่า เราใช้เวลาไปกับสิ่งที่ไม่มีความสำคัญ มากจนเกินไป จนลืมทำงานที่สำคัญที่สุดของเรา จึงทำให้เกิดผลลัพธ์น้อยมาก การทำงานหนักไม่ได้หมายถึงว่าคนๆนั้นจะประสบความสำเร็จ หากว่าการทำงานหนักและทำงานอย่างชาญฉลาดต่างหากที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้
ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำจะเป็นการดีกว่า (โพธิสัตว์)
#image_title
by drsuthichai | Nov 14, 2024 | การศึกษา, ทั่วไป อื่นๆ
แนวความคิดในการบริหารเวลา
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
ปัญหาของคนส่วนใหญ่ในเรื่องของการบริหารเวลาหรือการใช้เวลาไม่มีประสิทธิภาพก็คือ การไม่รู้จักจัดลำดับความสำคัญของงาน , การเสียเวลากับการรอคอย , การผัดวันประกันพรุ่ง , การไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน , การขาดวินัย , การไม่มีการวางแผนการทำงาน ฯลฯ
ซึ่งเหตุผลต่างๆ ข้างต้นคือ สาเหตุที่ทำให้เราบริหารเวลาได้ไม่ดีพอ แล้วถามว่าเวลาสามารถบริหารได้หรือไม่ ตามความคิดเห็นของกระผม เวลาเป็นทรัพยากรที่สำคัญประเภทหนึ่ง กระผมคิดว่าเวลาก็เหมือนกับทรัพยากรอื่นๆ เช่น ที่ดิน คน เงิน สิ่งของ วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ฯลฯ ถ้าทรัพยากรต่างๆ เราสามารถบริหารได้ ทำไมทรัพยากรเวลา เราจะบริหารไม่ได้
แต่ทรัพยากรด้านเวลามีความแตกต่างจากทรัพยากรโดยทั่วไปกล่าวคือ ทรัพยากรเวลา ไม่สามารถสะสมหรือทดแทนกันได้ เป็นทรัพยากรที่คนเราทุกๆคน มีอย่างเท่าเทียมกัน ไม่สามารถหยิบยืมหรือขอซื้อกัน ดังนั้นเมื่อคนเรามีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมงต่อวัน แต่คนที่ประสบความสำเร็จเขามักใช้เวลาที่มีเท่าเทียมกันได้อย่างคุ้มค่ากว่าคนโดยทั่วไป
หากว่าเรามีทรัพยากรเวลาที่มีจำกัด เราจะทำอย่างไร ถึงจะสามารถใช้ทรัพยากรเวลาให้เกิดความคุ้มค่ากับตัวเราได้ สำหรับคนเราโดยส่วนใหญ่มักจะเสียเวลาหรือใช้เวลาไปกับกิจกรรมโดยแบ่งเป็นช่วงดังนี้ เวลาทำงานประมาณ 8 ชั่วโมง เวลานอนประมาณ 8 ชั่วโมงและเวลาส่วนตัวประมาณ 8 ชั่วโมง นี่คือภาพรวมของการใช้เวลาของคนส่วนใหญ่ในโลกนี้
หากเราต้องการใช้เวลาทำงานมากขึ้น เราก็ควรลดเวลาในช่วงอื่นลง เช่น เราอาจจะต้องลดหรือเพิ่มหรือยืดหยุ่นเวลานอนและเวลาส่วนตัวลง เนื่องจากเวลาหลับโดยเฉลี่ยแล้วคนเรานอนโดยใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง แต่ทางการแพทย์ได้มีการวิจัยมาแล้วว่า คนเราทุกๆคนมีความต้องการหลับมากน้อยไม่เท่ากัน เพราะบางคนอาจต้องการนอนหลับมากกว่าหรือน้อยกว่า 8 ชั่วโมงก็ได้ เช่น
โทมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์เอกของโลกตามประวัติใช้เวลานอนเพียงคืนละ 4 ชั่วโมง แต่จะหาโอกาสงีบหลับครั้งละ 5 -10 นาทีในระหว่างทำงาน บางคนก็อาจจะนอนหลับวันละ 9-10 ชั่วโมง หากว่านอน 8 ชั่วโมงแล้วยังรู้สึกง่วงซึมหรือบางคนสุขภาพแย่ร่างกายก็ต้องการนอนพักผ่อนมากกว่า 8 ชั่วโมงเป็นต้น
ฉะนั้น หากท่านต้องการทราบว่าท่าน มีความต้องการเวลาในการหลับนอนวันละกี่โมง ท่านคงจะต้องใช้วิธีการทดลอง ด้วยการกำหนดระยะเวลาของการนอนที่แตกต่างกันออกไปแต่ละช่วง เช่นกำหนด 5 ชั่วโมง 6 ชั่วโมง 7 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง 9 ชั่วโมง 10 ชั่วโมง หากว่าท่านนอนเพียงแค่ 5 ชั่วโมงแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่า นั้นแสดงว่าช่วงเวลานอนของท่านนอนแค่ 5 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว
ดังนั้น ขอให้พวกเรา จงบริหารเวลา ก่อนที่เวลาจะมากำหนดชีวิตหรือบริหารตัวเรา
“Lost time is never found again.”
#image_title