by SompitMekmok | Mar 26, 2024 | ทั่วไป อื่นๆ
ไม้บีช: วัสดุยอดนิยมสำหรับพื้นไม้แท้และพื้นไม้วิศวกรรม
ในโลกของพื้นไม้สำหรับอาคารที่อยู่อาศัยและพาณิชย์ ไม้บีช (Beech Wood) ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่มีคุณสมบัติโดดเด่นทั้งด้านความสวยงามและความแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้บีชแท้หรือพื้นไม้บีชวิศวกรรม
ความนิยมของไม้บีชในการใช้เป็นพื้นไม้
ไม้บีชเป็นไม้แข็งชนิดหนึ่งที่มีแหล่งกำเนิดจากทวีปยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ความนิยมของไม้บีชมาจากคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ดังนี้
- ความแข็งแกร่งสูง ไม้บีชมีเนื้อแน่นและแข็งแรง สามารถทนแรงกระแทกและการใช้งานหนักได้ดี จึงเหมาะสำหรับการใช้เป็นพื้นไม้อาคารที่มีการสัญจรไปมาสูง
- ความทนทานต่อรอยขีดข่วน เนื่องจากความแข็งของเนื้อไม้ ไม้บีชจึงมีความต้านทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่าไม้แข็งชนิดอื่นๆ
- ความสวยงามของลวดลายเนื้อไม้ ลักษณะลวดลายเนื้อไม้ของบีชมีเส้นตรงและเส้นใยแน่นละเอียด สร้างบรรยากาศหรูหราและทันสมัย
- ความหลากหลายของสีสัน แม้สีพื้นฐานของไม้บีชจะเป็นสีครีมอมน้ำตาลอ่อน แต่สามารถผลิตได้หลากหลายสีตามความต้องการ เช่น บีชสีน้ำตาล บีชสีแดง บีชสีดำ เป็นต้น
- มีกลิ่นไม่รุนแรง บางชนิดไม้แข็งอาจมีกลิ่นที่ฉุนและไม่พึงประสงค์ แต่ไม้บีชมีกลิ่นเบาบางไม่รบกวน
ด้วยคุณสมบัตินี้ ทำให้ไม้บีชได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาใช้ทำเป็นพื้นไม้ทั้งแบบพื้นไม้แท้และพื้นไม้วิศวกรรม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทั้งความสวยงามและความทนทาน
ความแตกต่างระหว่างพื้นไม้บีชแท้และพื้นไม้บีชวิศวกรรม
เมื่อเลือกใช้ไม้บีชเป็นพื้น ผู้บริโภคมีทางเลือกระหว่างพื้นไม้บีชแท้กับพื้นไม้บีชวิศวกรรม โดยแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดดังนี้
1. พื้นไม้บีชแท้
พื้นไม้บีชแท้หมายถึงพื้นไม้ที่ทำจากแผ่นไม้บีชทั้งแผ่น จึงสามารถเห็นลวดลายเนื้อไม้ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ข้อดีคือความสวยงามตามธรรมชาติของเนื้อไม้ มีความแข็งแรง และทนทานสูง แต่ข้อจำกัดคือราคาค่อนข้างสูง มีความยุ่งยากในการดูแลรักษา และอาจมีปัญหาการบิดงอหรือหดตัวของไม้หากมีการติดตั้งไม่ถูกวิธี
2. พื้นไม้บีชวิศวกรรม
พื้นไม้บีชวิศวกรรมหรือไม้วิศวกรรมบีชเป็นพื้นที่ผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีทางวิศวกรรม โดยมีชั้นบนสุดทำจากแผ่นไม้บีชบางๆ และแกนกลางเป็นไม้อัดหรือพาร์ติเกิลบอร์ด เทคนิคการผลิตนี้ช่วยลดปัญหาการหดตัวและบิดงอของไม้ได้ดี ข้อดีคือราคาถูกกว่าไม้แท้ สามารถติดตั้งบนพื้นที่ที่มีระบบปรับอากาศหรือให้ความร้อนใต้พื้นได้ รวมถึงมีความแข็งแรงพอสมควร แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่องความทนทานบางประการเมื่อเทียบกับไม้แท้
ดังนั้น การเลือกใช้พื้นไม้บีชแท้หรือไม้บีชวิศวกรรมนั้น ผู้บริโภคควรพิจารณางบประมาณ วัตถุประสงค์การใช้งาน รวมถึงความยากง่ายในการดูแลรักษา เพื่อให้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด
สรุป
ด้วยคุณสมบัติความแข็งแกร่ง ทนทาน สวยงาม และความหลากหลายของสีสัน จึงไม่น่าแปลกใจที่ไม้บีชกลายเป็นวัสดุยอดนิยมในการทำพื้นไม้ ทั้งแบบพื้นไม้แท้และพื้นไม้วิศวกรรม เพื่อสร้างบรรยากาศที่ทันสมัยและมีระดับภายในอาคาร ผู้ซื้อสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับงบประมาณและสภาพการใช้งาน เพื่อให้ได้พื้นไม้ที่ดึงดูดสายตา คงทน และมอบความพึงพอใจได้อย่างแท้จริง
by SompitMekmok | Mar 23, 2024 | ทั่วไป อื่นๆ, แนะนำสินค้าและบริการ
ผนังไม้: เสน่ห์ธรรมชาติที่เติมเต็มพื้นที่ด้วยสไตล์และความอบอุ่น
ผนังไม้ เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในการตกแต่งภายในบ้าน เพราะนอกจากจะสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลายแล้ว ยังเป็นการนำธรรมชาติเข้ามาสู่พื้นที่อยู่อาศัย ทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวาและสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์
การเลือกใช้ผนังไม้ มีหลากหลายสไตล์ให้เลือกสรร ขึ้นอยู่กับรสนิยมและบรรยากาศที่ต้องการ
สไตล์คลาสสิก
- เน้นความเรียบง่าย หรูหรา และดูมีระดับ
- นิยมใช้ไม้สักทอง ไม้เมเปิ้ล หรือไม้โอ๊คสีอ่อน
- วางเป็นแนวนอนหรือแนวตั้ง
- ประดับประดาด้วยไม้แกะสลักลวดลายโค้งมน
- เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงาน
สไตล์รัสติก
- มีลักษณะดิบ เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น
- นิยมใช้ไม้ธรรมชาติที่มีรอยปล่อยเนื้อไม้ เช่น ไม้สนหรือไม้ซีดาร์
- วางแบบไม่เป็นระเบียบหรือวางทับซ้อนกัน
- ไม่จำเป็นต้องพื้นผิวเรียบเนียน
- เหมาะสำหรับสร้างบรรยากาศแบบบ้านพักตากอากาศ
สไตล์โมเดิร์น
- เน้นความทันสมัย เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์
- นิยมใช้ไม้เนื้อเนียนและมีสีสันอ่อน เช่น ไม้วอลนั๊ต หรือไม้เมเปิ้ลโทนสีอ่อน
- วางเป็นแนวนอนหรือแนวทแยงในลักษณะกระดานบาง
- วางทับซ้อนกันบนโครงสีเข้มหรือเพิ่มแผ่นอะลูมิเนียมบางๆคั่นระหว่างแนว
- เหมาะกับการตกแต่งในห้องนอนหรือพื้นที่ทำงานสมัยใหม่
ผนังไม้มีให้เลือกทั้งแบบใช้ไม้จริงและไม้เอ็นจิเนียร์
ผนังไม้จริง
- สวยงามตามธรรมชาติ มีลวดลายและเนื้อสัมผัสของไม้แท้
- หลากหลายชนิดไม้ให้เลือก เช่น ไม้สัก ไม้เนื้อแข็ง ไม้ซีดาร์
- ซ่อมแซม ขัดเงา หรือย้อมสีใหม่ได้
- คงทนแข็งแรงหากดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
- ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ
- บางชนิดไม้อาจเกิดปัญหาบิดงอได้
ผนังไม้เอ็นจิเนียร์
- ราคาถูกกว่าไม้จริง
- ทนทาน ไม่ผุกร่อนง่าย
- ไม่ต้องดูแลรักษามาก
- มีให้เลือกหลากหลายลวดลายและสีสัน
ข้อเสีย
- อาจขาดเสน่ห์ของธรรมชาติ
- ไม่สามารถซ่อมหรือเปลี่ยนส่วนผิวที่ชำรุดได้
- อาจมีปัญหาการขยายหรือหดตัวจากความร้อน
การติดตั้งผนังไม้
- วางผังและติดตั้งอย่างถูกวิธี
- เพิ่มเสน่ห์และบรรยากาศอบอุ่นให้กับพื้นที่ภายในบ้าน
ข้อควรระวัง
- การเลือกใช้ไม้จริงหรือไม้เอ็นจิเนียร์ ขึ้นอยู่กับงบประมาณ รสนิยม ความสวยงามที่ต้องการ และการดูแลรักษา
- เลือกสไตล์ผนังไม้ให้เข้ากับบรรยากาศโดยรวมของห้อง
ตัวอย่างการตกแต่งผนังไม้
- ผนังไม้แบบเต็มผนัง
- ผนังไม้แบบครึ่งผนัง
- ผนังไม้แบบบัวผนัง
- ผนังไม้แบบระแนง
การดูแลรักษาผนังไม้
- ทำความสะอาดด้วยไม้ขนไก่หรือผ้าชุบหมาดๆ
- ทาน้ำมันเคลือบเงาเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดและความชื้นสูง
การตกแต่งผนังไม้ เป็นวิธีง่ายๆ ในการเพิ่มเสน่ห์และบรรยากาศอบอุ่นให้กับพื้นที่ภายในบ้าน เลือกสไตล์และวัสดุที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
by SompitMekmok | Mar 22, 2024 | ทั่วไป อื่นๆ, แนะนำสินค้าและบริการ
ไม้โอ๊ค: วัสดุคุณภาพสูงสำหรับงานก่อสร้างและตกแต่งภายใน
ไม้โอ๊ค (Oak Wood) เป็นพันธุ์ไม้เนื้อแข็งชนิดหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากในด้านความแข็งแรง ความทนทาน และความสวยงาม ไม้โอ๊คเป็นไม้ในวงศ์ Fagaceae ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้โอ๊คที่พบมากในแถบทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป ได้แก่ สายพันธุ์ White Oak และ Red Oak
คุณสมบัติเด่นของไม้โอ๊คคือความหนาแน่นและความแข็งแรงสูงมาก เนื้อไม้มีน้ำหนักประมาณ 760 กก./ลบ.ม. และมีค่าความแข็งแรงกดอัดสูงถึง 1,360 PSI นอกจากนี้ไม้โอ๊คยังมีความทนทานต่อสภาพอากาศและแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม เนื่องจากโครงสร้างเนื้อไม้ที่แน่นหนา และมีลักษณะลวดลายเนื้อไม้สวยงาม คล้ายวงแหวนปีที่ชัดเจน โดยทั่วไปจะเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือเหลืองอมน้ำตาล ไม้โอ๊คยังมีจุดเด่นอีกประการหนึ่งคือกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่รู้จักกันดี
ในประเทศไทย ไม้โอ๊คไม่ใช่ไม้พื้นเมืองแต่จะต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยไม้โอ๊คถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการก่อสร้างและตกแต่งภายในบ้าน เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำไม้โอ๊คมาใช้ผลิตเป็นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood) ประเภทพาร์เก้บอร์ด (Parquetry)
พาร์เก้บอร์ดจากไม้โอ๊คได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย ทั้งแบบบล็อกเดี่ยว (Solid Parquetry) และแบบติดแนบกาว (Glue Down Parquetry) โดยลักษณะเด่นของพาร์เก้บอร์ดไม้โอ๊คคือผิวสวยงาม คงทน สามารถรับน้ำหนักได้ดี และมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ พาร์เก้บอร์ดชนิดนี้จึงถูกนิยมนำมาปูพื้นให้กับบ้านเรือน คอนโดมิเนียม โรงแรม ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงานต่างๆ
นอกเหนือจากพาร์เก้บอร์ดแล้ว ไม้โอ๊คยังถูกนำมาใช้ทำงานวูดเวิร์คหลายประเภท เช่น บานประตู หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่งภายในอีกมากมาย เนื่องจากมีเนื้อไม้สวยงาม แข็งแรง สามารถผลิตเป็นชิ้นงานได้หลากหลาย อีกทั้งยังสามารถตกแต่งได้อย่างมีรสนิยมและหรูหรา จึงถือเป็นวัสดุยอดนิยมสำหรับงานตกแต่งบ้านและอาคารในประเทศไทย
สรุปได้ว่า ไม้โอ๊คนับเป็นไม้ที่มีคุณภาพสูงและได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งสำหรับงานก่อสร้างและตกแต่งภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตเป็นไม้เอ็นจิเนียร์ชั้นดีอย่างพาร์เก้บอร์ดและวูดเวิร์คต่างๆ ความแข็งแรง ความทนทาน และความงามของลวดลายไม้โอ๊คล้วนเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผลิตภัณฑ์จากไม้โอ๊คมีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดไม้ในประเทศไทย
by SompitMekmok | Mar 20, 2024 | ทั่วไป อื่นๆ, แนะนำสินค้าและบริการ
ไม้วอลนัท: ตัวเลือกอันหรูหราสำหรับพื้นไม้ของคุณ
เสน่ห์ของไม้วอลนัท
ไม้วอลนัท (Walnut) เป็นไม้เนื้อแข็งที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามและประสิทธิภาพ นิยมใช้สำหรับงานตกแต่งภายในหลากหลายประเภท รวมไปถึงพื้นไม้ ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่น ไม้วอลนัทจึงเป็นตัวเลือกอันหรูหราและเหนือกาลเวลาสำหรับบ้านของคุณ
ความงามที่ไม่เหมือนใคร
ไม้วอลนัทมีสีน้ำตาลเข้มที่อบอุ่น ลวดลายไม้ที่ชัดเจน มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม้แต่ละแผ่นมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ลวดลายไม้ที่พลิ้วไสว เปรียบเสมือนงานศิลปะจากธรรมชาติที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ
ความทนทานที่เหนือชั้น
ไม้วอลนัทเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานสูง ทนต่อรอยขีดข่วน รอยบุ๋ม และการสึกหรอ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร หรือโถงทางเดิน
ความยืดหยุ่นในการออกแบบ
ไม้วอลนัทสามารถดัดแปลงให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งได้หลากหลาย เหมาะกับทั้งบ้านแบบดั้งเดิม บ้านสมัยใหม่ หรือสไตล์มินิมอล สีน้ำตาลเข้มของไม้วอลนัท ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลาย หรูหรา และดูมีระดับ
ตัวเลือกที่หลากหลาย
ไม้วอลนัทมีให้เลือกหลายประเภท ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา ลวดลาย และสี ตัวเลือกยอดนิยม ได้แก่
- ไม้วอลนัทอเมริกาเหนือ: มีสีน้ำตาลเข้ม ลวดลายไม้ที่ชัดเจน และมีความแข็งแรงสูง เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์น
- ไม้วอลนัทยุโรป: มีสีน้ำตาลอ่อน ลวดลายไม้ที่ละเอียด และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับบ้านสไตล์คลาสสิก
- ไม้วอลนัทเอเชีย: มีสีน้ำตาลแดง ลวดลายไม้ที่หลากหลาย และมีราคาถูกกว่า เหมาะกับบ้านสไตล์มินิมอล
พื้นไม้จริง vs พื้นวิศวกรรม
พื้นไม้จริง ผลิตจากไม้เนื้อแข็ง 100% สวยงาม ทนทาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถขัดและเคลือบผิวใหม่ได้หลายครั้ง เพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน แต่ราคาสูง ติดตั้งยาก และดูแลรักษายากกว่า
พื้นวิศวกรรม ผลิตจากวัสดุหลายชั้น ติดตั้งง่าย ดูแลรักษาง่าย ทนต่อน้ำ ทนความร้อน และมีราคาถูกกว่าพื้นไม้จริง แต่ความสวยงามและความทนทานด้อยกว่า
การเลือกพื้นไม้ที่เหมาะสม
- การใช้งาน: พื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก ควรเลือกพื้นไม้จริงหรือพื้นวิศวกรรมที่มีความทนทานสูง
- สไตล์การตกแต่ง: เลือกไม้วอลนัทให้เหมาะกับสไตล์การตกแต่งของบ้าน
- งบประมาณ: พื้นไม้จริงมีราคาสูงกว่าพื้นวิศวกรรม
- การดูแลรักษา: พื้นไม้จริงต้องดูแลรักษามากกว่าพื้นวิศวกรรม
เคล็ดลับการดูแลรักษาพื้นไม้วอลนัท
- ทำความสะอาดโดยใช้ไม้ถูพื้นชุบน้ำหมาดๆ ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
- ป้องกันรอยขีดข่วนจากเฟอร์นิเจอร์ โดยใช้แผ่นรองขาโต๊ะ เก้าอี้
- เคลือบผิวด้วยน้ำยาเคลือบเงา น้ำยาเคลือบด้าน หรือน้ำมัน เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน รอยบุ๋ม และการสึกหรอ
ไม้วอลนัท: ตัวเลือกที่คุ้มค่า
ไม้วอลนัทเป็นตัวเลือกอันหรูหรา ทนทาน สวยงามเหนือกาลเวลา เหมาะสำหรับพื้นไม้ของคุณ เลือกไม้วอลนัทให้เหมาะกับการใช้งาน สไตล์การตกแต่ง และงบประมาณของคุณ ดูแลรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อพื้นไม้ที่สวยงามยาวนาน
by SompitMekmok | Mar 16, 2024 | ทั่วไป อื่นๆ, แนะนำสินค้าและบริการ
พื้นไม้สักสไตล์รัสติก: สวยงามตามธรรมชาติอันยาวนาน
ความงามคลาสสิกของไม้สัก
พื้นไม้สักสไตล์รัสติกมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เหนือกว่า ด้วยความงามคงทนและความแข็งแรง ทำให้ตัวเลือกคลาสสิกนี้เป็นที่นิยมของเจ้าของบ้านและนักออกแบบมาช้านาน หากคุณกำลังพิจารณาติดตั้งพื้นไม้สักรัสติกที่บ้าน คุณตัดสินใจถูกต้องแล้ว
ความทนทานของไม้สัก
สักเป็นไม้แข็งที่มีชื่อเสียงในเรื่องความทนทานมาตั้งแต่สมัยโบราณ พบได้ทั่วไปในทวีปเอเชียและอเมริกา โดยไม้สักเอเชียได้รับความนิยมเป็นพิเศษด้วยลวดลายเนื้อไม้และสีสันที่หลากหลายโดดเด่น ไม้สักเป็นที่รู้จักในเรื่องเนื้อไม้ที่แน่นทนทาน ทำให้เหมาะเป็นพื้นในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น ห้องนั่งเล่น ทางเดิน และห้องครัว
เสน่ห์สไตล์รัสติก
“รัสติก” คือสไตล์ที่ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบและเฉลิมฉลองเอกลักษณ์ของวัสดุ สำหรับพื้นไม้สักรัสติกจะมีความหลากหลายของสีสัน ร่องรอย และลวดลายเนื้อไม้ ความหลากหลายเหล่านี้ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและน่าพักผ่อนในห้อง นำความรู้สึกถึงความแท้จริงและเสน่ห์ หากคุณชื่นชอบความงามของธรรมชาติและอยากได้บรรยากาศนั้นมาไว้ภายในบ้าน พื้นสักรัสติกคือตัวเลือกที่ดีที่สุด
ความกว้างโดดเด่น
คุณสมบัติที่โดดเด่นของพื้นสักรัสติกคือความกว้าง 23 ซม. ทำให้ดูโดดเด่นในทุกห้อง ความกว้างของแผ่นไม้ช่วยสร้างภาพลวงตาของห้องที่กว้างขวางโปร่งโล่ง ซึ่งเป็นประโยชน์โดยเฉพาะสำหรับห้องขนาดเล็ก เพราะไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป นอกจากนั้นความกว้างยังเสริมให้เห็นความงามธรรมชาติของเนื้อไม้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เปิดเผยลวดลายและสีสันที่แตกต่างกันได้อย่างเต็มที่
บรรยากาศอบอุ่นในบ้าน
สไตล์รัสติกนำบรรยากาศอบอุ่นและสบายมาสู่บ้านของคุณ ความหลากหลายในสีสันและพื้นผิวของเนื้อไม้สร้างฉากหลังที่สวยงามเข้ากับทุกสไตล์การตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะออกแบบในสไตล์โมเดิร์นหรือดั้งเดิม พื้นไม้สักรัสติกเสริมความหรูหราและสง่างามได้อย่างกลมกลืน ไม่ดูตึงเครียดหรือแข็งทื่อจนเกินไป
การเคลือบน้ำมันธรรมชาติ
การเคลือบด้วยน้ำมันธรรมชาติเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากให้ข้อดีหลายประการ ประการแรก มันเสริมความงามธรรมชาติของเนื้อไม้ ทำให้ลวดลายเนื้อไม้และสีสันโดดเด่นชัดเจน สร้างความรู้สึกอบอุ่นและน่าต้อนรับได้ยากเลียนแบบ ประการที่สอง น้ำมันธรรมชาติซึมลึกเข้าในเนื้อไม้ ให้ชั้นป้องกันที่ช่วยต้านทานคราบและการสึกหรอจากการใช้งานประจำวันได้ดี ประการสุดท้าย ประเภทเคลือบนี้ง่ายต่อการบำรุงรักษาและซ่อมแซม เหมาะสำหรับบ้านที่มีการใช้งานหนัก
การทำความสะอาดและบำรุงรักษา
การทำความสะอาดและบำรุงรักษาพื้นไม้สักรัสติกที่เคลือบน้ำมันธรรมชาติก็ทำได้ง่าย ควรปัดกวาดและดูดฝุ่นเป็นประจำเพื่อกำจัดฝุ่นและเศษสกปรก สำหรับการทำความสะอาดหนัก สามารถใช้ผ้านุ่มชุบน้ำยาทำความสะอาดพื้นไม้อ่อนๆ แต่ระวังอย่าใช้น้ำมากเกินไป หากมีคราบหรือรอยเปื้อนต่างๆ ควรเช็ดออกทันทีด้วยผ้าแห้ง
เพื่อคงความงาม ควรทาน้ำมันเป็นระยะ 1-2 ครั้ง/ปี ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูชั้นป้องกันและรักษาสภาพพื้นไม้ให้ดูดีอยู่เสมอ การทาน้ำมันตามคำแนะนำผู้ผลิต มักจะเป็นการนวดน้ำมันบางๆ ให้ทั่วพื้น ปล่อยซึม สักพัก แล้วเช็ดน้ำมันส่วนที่เกินออกด้วยผ้าสะอาด
สรุปเสน่ห์พื้นไม้สักรัสติก
พื้นไม้สักรัสติกเป็นตัวเลือกที่มีความคงทนและคุณค่า นำเอาความงามแห่งธรรมชาติเข้ามาในบ้าน แผ่นไม้กว้าง 23 ซม. ช่วยสร้างภาพลวงตาของห้องกว้างโล่งขวางขึ้น พร้อมเปิดเผยลวดลายและสีสันที่แตกต่างกันอย่างเต็มที่ เสน่ห์แบบรัสติกมีความไม่สมบูรณ์แบบ แต่เพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเคลือบ น้ำมันธรรมชาติเสริมความงามตามธรรมชาติของเนื้อไม้และป้องกันได้ดี ง่ายต่อการบำรุงรักษา เหมาะสำหรับบ้านสไตล์หรูหราแบบเรียบง่าย พื้นสักรัสติกมีเสน่ห์อันงดงามที่คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน
by SompitMekmok | Mar 14, 2024 | ทั่วไป อื่นๆ, แนะนำสินค้าและบริการ
ไม้แอช: ตัวเลือกอันยอดเยี่ยมสำหรับพื้นและเฟอร์นิเจอร์
1. บทนำ: รู้จักกับไม้แอช
ไม้แอช (Ash Wood) ได้มาจากต้นแอชขาว (Fraxinus spp.) ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งที่นิยมใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ชั้นดี พื้นบ้าน ตู้ และงานก่อสร้าง คุณสมบัติพิเศษของไม้ชนิดนี้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับงานหลากหลายประเภท
1.1 สีและลวดลาย
- สีแก่น (Heartwood): มีสีตั้งแต่โทนน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลกลาง บางครั้งอาจมีลายเส้นสีเข้มกว่า ซึ่งมักเรียกว่า “ไม้แอชสีมะกอก” (Olive Ash)
- กระพี้ไม้ (Sapwood): มีสีเบจหรือน้ำตาลอ่อน มักกลืนไปกับสีแก่นได้อย่างกลมกลืน
- ลายไม้ (Grain): โดยทั่วไปไม้แอชจะมีลายเส้นตรง แต่ในบางกรณี ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์อาจเกิดขึ้นได้จากสภาพแวดล้อมขณะเจริญเติบโต เช่น ลายหยิก (curly) หรือ ลายตาไก่ (birdseye)
2. ข้อดีของไม้แอช
2.1 ความแข็งแรงและทนทาน
- ค่าความแข็ง Janka (Janka Hardness): ไม้แอชมีค่าความแข็ง Janka ประมาณ 1320 ซึ่งจัดว่าแข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการเดินเหยียบย่ำเป็นประจำ
- การดูดซับแรงกระแทก (Shock Absorption): ด้วยความยืดหยุ่นสูง ทำให้ไม้แอชเป็นตัวดูดซับแรงกระแทกได้ดี เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการลดเสียงสะท้อน
2.2 ความสวยงาม
- สไตล์ร่วมสมัย (Contemporary Aesthetic): สีอ่อนของไม้แอชเข้ากับสไตล์ร่วมสมัย ช่วยสร้างความอบอุ่นโดยไม่ทำให้พื้นที่ดูทึบ
- ลวดลายโดดเด่น (Character Definition): ลวดลายของไม้ช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับพื้นที่ภายในโดยไม่ทำให้ดูรกรุงรัง
2.3 การพิจารณาถึงความยั่งยืน
- สถานะใกล้สูญพันธุ์ (Endangered Status): ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันไม้แอชจัดเป็นไม้ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากปัญหาแมลงด้วงกว่างมรกต (emerald ash borer) ทำให้การใช้ไม้นี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ความสม่ำเสมอ (Inconsistencies): เนื่องจากมีปริมาณน้อย การหาไม้แอชสำหรับพื้นที่มีความสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องยาก
3. บทสรุป
ด้วยความหลากหลาย ทนทาน และสวยงาม ไม้แอชจึงยังคงเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าคุณจะเลือกไม้แอชจีน ไม้แอชสหรัฐอเมริกา ไม้แอชฝรั่งเศส หรือไม้แอชยุโรปตะวันออก แต่ละชนิดก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่จะสร้างความสวยงามให้กับพื้นที่ของคุณ
สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกไม้แอชสำหรับพื้น
- ความยั่งยืน (Sustainability): เลือกไม้แอชจากแหล่งที่ยั่งยืน
- ความหลากหลายในแต่ละภูมิภาค (Regional Availability): พิจารณาความพร้อมใช้งานของไม้แอชในแต่ละภูมิภาค
- สไตล์ที่ต้องการ (Specific Aesthetic): เลือกไม้แอชที่เหมาะกับสไตล์ที่คุณต้องการ
ไม้แอช: จุดที่ความสง่างามเหนือกาลเวลา ผสมผสานกับความใช้งานได้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก Arrow Wood Thailand